น้ำมันนวดเส้นสมุนไพร ไพรรีแล็กซ์ สามารถบรรเทากล้ามเนื้อและอาการเจ็บของคุณได้อย่างไร

น้ำมันนวดเส้นสมุนไพร ไพรรีแล็กซ์ : สามารถบรรเทากล้ามเนื้อและอาการเจ็บของคุณได้อย่างไร

การประสบกับปัญหาอาการเจ็บปวดและความตึงเครียดในกล้ามเนื้อเป็นประสบการณ์ที่หลายๆ คนต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำๆ หนักๆ อย่างต่อเนื่อง น้ำมันนวดเส้นสมุนไพร ไพรรีแล็กซ์จึงเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าน้ำมันนวดเส้นชนิดนี้จะสามารถช่วยบรรเทากล้ามเนื้อตึงและอาการเจ็บของคุณได้อย่างไรบ้าง

1.คุณสมบัติของน้ำมันนวดเส้นสมุนไพร ไพรรีแล็กซ์
มีสมุนไพรไทยที่มีประสิทธิภาพ: น้ำมันนวดเส้นสมุนไพร ไพรรีแล็กซ์ผสมสมุนไพรไทยที่มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและความตึงเครียดในกล้ามเนื้อ ซึ่งประกอบไปด้วย หัวไพล, เถาเอ็นอ่อน, น้ำมันยูคาลิปตัส, น้ำมันระกำ, เกล็ดสะระแหน่, พิมเสน, และการบูร

เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติที่ปลอดภัย: น้ำมันนวดเส้นสมุนไพร ไพรรีแล็กซ์ไม่มีสารเคมีอันตราย ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติเท่านั้น เพื่อให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยจากผลิตภัณฑ์ของเรา


2.ประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการต่าง ๆ
ลดอาการปวด บวม อักเสบ แดง ร้อน: สมุนไพรที่ประกอบอยู่ในน้ำมันนวดเส้นสมุนไพร ไพรรีแล็กซ์มีคุณสมบัติด้านการต้านการอักเสบและลดความปวดในกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นสาร (E)-4 (3',4'-dimethylphenyl) but-3-en-1-ol ในหัวไพล หรือ น้ำมันระกำ ที่มีการศึกษาฤทธิ์ในทางเภสัช พบว่าน้ำมันระกำสามารถแก้ไขอาการปวดบวมและอาการอักเสบได้ แถมมีฤทธิ์เป็นยาชาแบบอ่อนๆ ดังนั้นแค่สมุนไพรทั้ง 2 ชนิดนี้ ก็สามารถทำให้อาการปวดของคุณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เพิ่มการไหลเวียนของเลือดด้วยความร้อนจากตัวยาสมุนไพร: น้ำมันนวดเส้นสมุนไพรของเรา ผ่านการสกัดด้วยวิธีทางโบราณ ทำให้ได้สารความร้อนชั้นเยี่ยมจากสมุนไพร ที่จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่มีการทาน้ำมัน โดยสารสมุนไพรในน้ำมันนวดนั้นจะทำปฏิกิริยาแบบพิเศษช่วยให้เกิดความร้อนขึ้น ทำให้ผิวหนังและเส้นเลือดขยายตัว เมื่อมีการขยายตัว ก็จะทำให้เลือดเดินทางได้สะดวกขึ้น สารอาหารและออกซิเจนจะมาเลี้ยงได้มากขึ้น ขับของเสียได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ร่างกาย และอาการบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กระตุ้นให้เกิดการคลายเส้น คลายกล้ามเนื้อ: นอกเหนือจาก หัวไพล และน้ำมันระกำ น้ำมันนวดเส้นสมุนไพรของเรายังมีส่วนผสมของสมุนไพรเถาเอ็นอ่อนร่วมอยู่ด้วย เพื่อช่วยในการคลายเส้น บรรเทาการตึงตัว โดยเถาเอ็นอ่อนเป็นสมุนไพรภูมิปัญญาไทยโบราณ ที่ซึ่งในสมัยก่อนเมื่อม้าหรือวัวมีการใช้แรงงานอย่างหนัก ภูมิปัญญาไทยโบราณจะนำเอาเถาเอ็นอ่อนมาให้ม้าวัวตัวกินเพื่อลดอาการปวดเมื่อย และสร้างความพร้อมให้กลับมาทำงานในครั้งต่อไปได้ โดยสมุนไพรชนิดนี้จะมีสารประกอบทางเคมีที่สำคัญคือ อัลคาลอยด์ และคาร์ดีโนไลด์ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี

ส่งเสริมความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ: น้ำมันยูคาลิปตัส, เกล็ดสะระแหน่, พิมเสน, และการบูร สารสมุนไพรสำคัญที่เราใส่เพิ่มเติมลงไป เนื่องจากสารภายในสมุนไพร และกลิ่นของสมุนไพรเหล่านี้ จะมีผลต่อระบบประสาทของร่างกายมนุษย์ ช่วยให้เกิดความผ่อนคลายต่อทั้งร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งส่งเสริมไปถึงเรื่องของการนอนหลับ และการ Recovery ที่มีประสิทธิภาพ (ใช้สูดดมแก้วิงเวียน หรือทาบรรเทาอาการช้ำ บรรเทาแมลงสัตว์กัดต่อยได้ด้วยเช่นกัน)

3.เทคโนโลยีและวิธีการใช้น้ำมันเส้นสมุนไพรที่ถูกออกแบบมาอย่างลึกซึ้ง
น้ำมันนวดเส้นสมุนไพรที่มาพร้อมกับหัวนวดโรลออน: ที่ถูกออกแบบ และพัฒนามาอย่างดีเพื่อใช้ในการทายาพร้อมกับนวดไปพร้อมๆ กันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหัวนวดโรลออนของเรา เมื่อนวดลงไปบนกล้ามเนื้อจะทำให้เกิดการคลายปมยึด Trigger Point ภายในกล้ามเนื้อ และยังช่วยกระตุ้นให้น้ำมันซึมลงไปรักษาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

น้ำมันนวดเส้นสมุนไพรของเรา ทาง่ายไม่เลอะมือ

น้ำมันนวดเส้นสมุนไพรของเรา มีเทคโนโลยีการให้ความร้อนแก่ผิวหนังที่ไม่เหมือนใคร เพื่อการดูแลรักษากล้ามเนื้ออย่างมีประสิทธิภาพ


มีแพทย์แผนไทยให้การปรึกษาผ่าน Chat: จุดปัญหา จุดตึง จุด Trigger Point หรือจุดที่ทำให้คุณลูกค้าบาดเจ็บ อาจมีความยากในการค้นหา วินิจฉัย จึงต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์ เราจึงเตรียมแพทย์แผนไทยไว้ในทุกช่องทางการ Chat พร้อมช่วยเหลือและให้คำปรึกษาคุณ

ใช้น้ำมันนวดเส้นสมุนไพร ไพรรีแล็กซ์ทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกาย หรือก่อนนอน เพื่อช่วยในกระบวนการรักษาอาการต่างๆ ของกล้ามเนื้อและการฟื้นฟูให้กล้ามเนื้อหายเหนื่อย กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพดังเดิม

แต่หากคุณมีอาการเจ็บปวดหรือปัญหาอื่นๆ ที่รุนแรงขึ้น หลังจากใช้ ก็ควรปรึกษาแพทย์ในทันที หรือ แอดไลน์มาสอบถามเราได้ที่ @phrairelax

อย่าลืมว่าผลของการใช้น้ำมันนวดเส้น ไพรรีแล็กซ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ดังนั้น ควรทดลองใช้ไปสักระยะเวลาหนึ่ง เพื่อประเมินผลลัพธ์และความเหมาะสมกับร่างกายของคุณ